คำอธิบาย
คุณภาพของแม่พิมพ์เป่าขวดสามารถประเมินได้จากหลายด้าน และต่อไปนี้เป็นบางปัจจัยที่สำคัญ:
วัสดุแม่พิมพ์
วัสดุคุณภาพสูง: แม่พิมพ์เป่าที่ดีมักใช้วัสดุเหล็กแม่พิมพ์คุณภาพสูง เช่น เหล็ก P20, H13 เหล็ก เป็นต้น เหล็กชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอและกันสนิมได้ดี สามารถทนต่อแรงดันสูง อุณหภูมิสูง และแรงเสียดทานในกระบวนการเป่า ช่วยยืดอายุการใช้งานของแม่พิมพ์ เช่น เหล็ก H13 มีความเหนียวและสมรรถนะในการทนความร้อนที่ดี ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตแม่พิมพ์เป่าที่มีกำลังการผลิตสูง
วัสดุคุณภาพต่ำ: เครื่องมือแม่พิมพ์ที่ทำจากเหล็กคุณภาพต่ำมีแนวโน้มที่จะสึกหรอ ผิดรูป มีรอยแตกร้าว และเกิดปัญหาอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาการใช้งานของแม่พิมพ์สั้นลงและเพิ่มต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ วัสดุคุณภาพต่ำอาจทำให้ความแม่นยำของแม่พิมพ์ลดลง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการหล่อขวด
ความแม่นยำของการทำงาน
ความแม่นยำสูง: แม่พิมพ์หล่อแบบเป่าที่ยอดเยี่ยมมีความแม่นยำในการประมวลผลสูง ซึ่งสามารถรับประกันความแม่นยำของขนาดและการออกแบบภายนอกของขวดได้ ความแม่นยำของช่องแม่พิมพ์มักควบคุมไว้ในช่วง ± 0.01 มม. และความหยาบของผิวอยู่ที่ Ra0.8-Ra1.6 ไมครอน แม่พิมพ์ที่มีความแม่นยำสูงสามารถทำให้ความหนาของผนังขวดสม่ำเสมอ ขนาดของปากขวด คอขวด และส่วนอื่น ๆ ถูกต้อง และเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดสนิทและความมั่นคงของขวด
ความแม่นยำต่ำ: แม่พิมพ์ที่มีความแม่นยำในการประมวลผลต่ำสามารถทำให้เกิดความเบี่ยงเบนของขนาดขวดได้มาก มีความหนาของผนังไม่สม่ำเสมอ และลักษณะที่ไม่น่าดู เช่น ขนาดปากขวดที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ฝาขวดปิดไม่สนิท ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความคงทนของสินค้าบนชั้นวาง
ความเหมาะสมของการออกแบบ
การออกแบบที่เหมาะสม: การออกแบบแม่พิมพ์สำหรับการเป่าพลาสติกที่ดีควรมีการพิจารณาอย่างเต็มที่ถึงคุณสมบัติการไหลของพลาสติก ลักษณะโครงสร้างของขวด และข้อกำหนดของกระบวนการเป่า เช่น การออกแบบตำแหน่งและจำนวนของจุดฉีดพลาสติกที่เหมาะสมสามารถช่วยให้พลาสติกเติมเต็มช่องแม่พิมพ์อย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงข้อบกพร่องเช่น รอยเชื่อมและฟองอากาศ นอกจากนี้กลไกการถอดขึ้นรูปของแม่พิมพ์ควรออกแบบให้เหมาะสมเพื่อช่วยให้การถอดขวดออกเป็นไปอย่างราบรื่นและลดรอยขีดข่วนและการเสียรูปบนผิวขวด
- การออกแบบที่ไม่เหมาะสม: การออกแบบแม่พิมพ์ที่ไม่เหมาะสมสามารถนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ในกระบวนการผลิต เช่น พลาสติกเติมไม่พอ ขวดเกิดการผิดรูป และการถอดแบบยาก ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิต แต่ยังเพิ่มอัตราของเสียและทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น